วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คำถามยอดฮิตในการสมัครงาน


ตอนนี้ก็กำลังจะจบการศึกษาระดับ ป.ตรีใหม่ๆ มีการเตรียมตัวพร้อมสำหรับวัยทำงาน

และต้องศึกษาข้อมูลการสมัครงาน ข้อมูลต่อไปนี้คงเป็นพื้นฐานสำหรับหลายๆคน



การสมัครงาน
1. มีบุคลิกภาพที่ดี เมื่อพบกันครั้งแรก
2. ต้องให้เกียรติผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะมีอายุน้อยกว่าหรือไม่
3. ต้องอ่านเอกสารให้ดี ก่อนจะตั้งคำถาม
4. ไม่ร้องขอการปฎิบัติที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ
5. มั่นใจว่าทราบถึงงานที่จะได้ทำ
6. ไม่ถามถึงค่าจ้าง เว้นแต่ผู้สัมภาษณ์เอ่ยถึง

การสัมภาษณ์งาน
1. ต้องไปก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15 นาที
2. แต่งกายสุภาพถูกต้องตามกาลเทศะ
3. ไม่มีอาการป่วย
4. ตาต้องมองผู้สัมภาษณ์ตลอดเวลา
5. ใช้คำพูดที่ฟังเข้าใจง่าย
6. เตรียมตัวมาตอบคำถาม
7. ไม่ขี้อาย ต้องกล้าแสดงออก
8. ไม่เสแสร้ง มีความจริงใจ
9. ควบคุมมือให้ดี
10. บอกค่าจ้างที่คาดว่าจะได้ โดยไม่หลอกตัวเอง
11. จำชื่อผู้สัมภาษณ์และควรขอนามบัตรไว้
12. เก็บเก้าอี้ที่นั่งเข้าที่เดิม

และนี่ สำหรับคำถามยอดฮิตที่เค้าว่ากันว่า(เค้าไหนก็ไม่รู้)
1.ทำไมคุณจึงอยากทำงานที่นี่

การที่จะทำงานทีไหนก็ตามผู้สัมภาษณ์จะต้องถามความเป็นมา ว่าทำไม คุณต้องการ ที่จะทำงาน ในบริษัทของเค้าและคำถามนี้ก็เป็น สิ่งที่คุณควร ทราบ และคุณก็ควรจะรู้ถึงเหตุผลของคุณอย่างแท้จริงไม่ไช่ตอบไปสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นคุณอาจจะตอบว่า

"ดิฉันมีความสนใจในระบบการทำงานของที่นี่มากและก็ทราบมาว่า ทางบริษัท ได้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคน ได้แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ค่ะ และดิฉันยังทราบมาอีกว่า ที่บริษัทรับฟังข้อเสนอของพนักงานทุกคน และ พร้อมจะแก้ไขถ้าข้อเสนอนั้น จะสามารถ พัฒนาให้บริษัทให้มีความมั่นคงและหน้าเชื่อถือยิ่งขึ้นค่ะ"

2.ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เคยทำอยู่

คำถามนี้จะง่ายมากสำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อน แต่จะเป็นคำถาม ที่ยากมาก สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ ในการทำงานมาแล้ว และเป็น คำถามที่ตรงประเด็น มากเลยทีเดียวเพราะหากคุณพอใจ ต่องานที่ทำอยู่ คุณคงไม่ต้องหางานใหม่ ทำหรอกจริงไหมล่ะคำถามนี้จึงเป็นคำถาม ที่คุณ ต้องเตรียมตัวอย่างมาก เลยทีเดียวตัวอย่างเช่น

"ผมอยากจะเรียนรู้ถึงงานสายใหม่ ที่น่าจะเหมาะสมกับตัวผมมากกว่า ที่ผม เคยทำอยู่ครับ และผมคิดว่างานที่นี้ เหมาะสมกับผม และผมพร้อมที่จะทำงาน ตรงนี้มากที่สุด"

และที่สำคัญ คุณห้ามนำข้อเสียที่คุณได้รู้จาก บริษัทเก่า มาพูดเด็ดขาด เพราะสิ่งนั้น อาจทำให้คะแนนแห่งความเชื่อถือ ของคุณ ลดลงก็ได้

3.ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อๆ

การที่จะทำงานร่วมกันได้นั้น สิ่งที่สำคัญ ก็จะเป็นเรี่อง ข้อมูลส่วนตัวประวัติ ความเป็นมา เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถบ่งบอกถึง นิสัยใจคอของคุณได้ และสามารถบอกถึง ความเหมาะสม กับงานด้านนี้ของคุณ ในการตอบคำถาม จึงควรอยู่ในแง่ของการทำงาน บุคลิกภาพส่วนตัว และแง่คิดของชีวิต บ้างนิดหน่อยคุณไม่ควรจะเล่าประวัติชีวิตของคุณให้มากเกินไป เพราะการพูดมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวคุณเอง เช่น

" ผมเป็นคนเคารพเวลา ไม่ชอบให้ใครรอเพราะฉะนั้นเวลาในการ ทำงานของผม จะตรงต่อเวลาเสมอ แต่ผมก็มีข้อเสียนะครับ คือเวลาที่ผมรอใคร แล้วคนคนนั้น ไม่มาสักที ผมก็มักจะควบคุมอารมณ์ ของตัวเองไม่ค่อยได้ทั้ง ๆ ที่เหตุผลของเค้า เป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก ก็ตามและตอนนี้ผมกำลังหาวิธี เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผมอยู่ครับ"

4.คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด

คำถามนี้จะทำให้คุณบอกถึงความสามารถของคุณ ที่จะทำให้กับบริษัท ได้มากน้อยแค่ไหน ในการบอกถึงคุณสมบัติที่คุณสามารถทำได้นั้น ไม่ถือว่า เป็นการโอ้อวดว่า คุณเก่งแต่อย่างไรแต่สิ่งที่คุณพูดนั้น จะสามารถสร้าง น้ำหนักในการตอบคำถามให้แก่คุณได้

5.จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา

เจอคำถามนี้เข้าก็ทำให้อึ้งเอาการ อยู่ทีเดียว ก็แหมใครอยากจะไป ทำงาน ล่วงเวลา หากไม่ได้อะไรตอบแทนบ้างเลย ฉะนั้นในการตอบคำถามนี้ คุณควรจะกล่าวถึง ความพร้อมเสมอในการทำงานล่วงเวลา ถึงแม้ว่า ค่าตอบแทน อาจจะน้อยมาก หรือในการทำงานล่วงเวลาจะไปตรงกับ ตารางนัดสำคัญกับคนพิเศษของคุณก็ตาม

"เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ ผมก็พร้อมจะทำงานล่วงเวลาเสมอ"

6.เรื่องทั่ว ๆ ไป

ในการสัมภาษณ์คุณอาจจะต้องพูดถึงเรื่องปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ข่าวทาง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และค่านิยมที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เป็นข่าว หนังสือพิมพ์ คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสนใจกับข่าวสาร บ้านเมือง ไม่เป็นคนที่ตกข่าว สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ปัจจุบัน การทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจทำให้คะแนน การสัมภาษณ์ของคุณเพิ่มขึ้นมาก็ได้

7.ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต

เป็นการพิจารณาถึงความเอาจริงเอาจังของคุณ เพราะหากคุณสามารถบอกถึง ทิศทางในอนาคตได้นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบ ในงานที่ได้รับ มอบหมายอย่างดีทีเดียวก็ขนาดอนาคตที่ไม่มีใคร สามารถรู้ได้ คุณยัง วางแผนสู่อนาคต ได้อย่างเป็นระบบนั่นก็หมายถึงว่า คุณไม่ได้มีความคิด ย่ำอยู่กับที่จริงไหม

8. คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม

คำถามในข้อนี้จะเจาะประเด็นว่าคุณรู้จักแบ่งเวลาของคุณ ให้เกิดประโยชน์ มากน้อยแค่ไหน และแสดงให้เห็นถึงบุคลิกของคุณว่า คุณเป็นคนอย่างไร ร่าเริง เปิดเผย หรือเก็บตัว เช่น ถ้าคุณตอบว่าคุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะ ถูกถาม ต่อว่า หนังสือเล่มล่าสุดที่คุณอ่านคือเรื่องอะไร และอาจให้คุณวิจารณ์ ถึงหนังสือเล่มนั้น ในการถามคำถามนี้ยังสามารถได้รู้ถึง ความละเอียด อ่อนของคุณ การรู้จักสังเกต การมีปฏิภาณไหวพริบกระทั่ง การใช้ชีวิต ร่วมกับคนอื่น ๆ อีกด้วย

9. คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่

เป็นเรื่องที่ยากมาก ในการตอบคำถามนี้ถ้าหากว่า งานที่คุณไปสมัคร ระบุ เงินเดือนไว้แล้ว ก็เกิดความสบายใจหน่อยแต่ถ้าไม่ได้ระบุถึง อัตรา ค่าจ้างเลย ก็แย่หน่อย ทางที่ดีคุณควรตอบตามอัตราเงินเดือน ที่คนทั่วไป ได้รับกัน เช่น อาจจะถามเพื่อน ที่ทำงานเหมือนกับตำแหน่ง ที่คุณสมัคร หรือตอบตาม เงินเดือนราชการ ที่คุณทราบก็ได้แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์ เสนอเงินเดือน มาสูง หรือต่ำกว่า อัตราที่คุณรู้คุณก็อย่าพึ่งตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการ พิจารณาสัก 3 วัน แล้วค่อยให้คำตอบเพราะถ้า เกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นคนโลเลไม่น่าเชื่อถือก็ได้

10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม

เจอคำถามนี้ก็บ่งบอกว่า การสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลงแต่ในการตอบคำถาม ข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดี ที่จะแสดงว่าเราไม่เป็นคนไม่ฉลาดออกมา เช่น คุณอาจถามย้ำเรื่องเวลาการทำงานก็ได้ "ผมอยากทราบเวลา ที่แน่นอนในการทำงานของผมครับ" หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะการไม่ได้ถามก็เท่ากับว่า คุณได้ทราบข้อมูล ของบริษัทมากพอแล้ว แต่ถ้าเกิด สงสัยจริง ๆก็ควรตั้ง คำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด

คำถามที่พูดมาข้างต้นนี้ดู ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมสำหรับการเตรียมตัว ในการ สัมภาษณ์ของคุณ แค่คุณมีความพร้อมกับ 10 คำถามเด็ด ๆ นี้คุณก็สามารถ ชนะใจ กรรมการ ได้แล้ว อย่างน้อยมันคงมีสักคำถามล่ะที่ตรงกับการเตรียมตัวของคุณ และสร้าง ความมั่นใจ ในการตอบคำถามของคุณได้แล้วอย่าลืมนำไป ปฏิบัติดูนะ เพราะสิ่งนี้ เป็นเส้นทาง ที่จะทำให้คุณสามารถได้รับคัดเลือกเป็นพนักงาน ในบริษัทที่คุณใฝ่ฝัน ได้อย่างภาคภูมิใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น