วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

เทคนิคการสัมภาษณ์งานแบบอังกฤษ


ควรจะเป็น Introduce yourself ไม่ใช่ interview yourself (แนะนำตัวเอง ไม่ใช่สัมภาษณ์ตัวเอง)

How did you know to apply for this position ไม่ใช่ apply to this position

เริ่มแรกต้องสวัสดีให้ถูกเวลา Good morning หรือ Good afternoon. ถ้ากลางคืนใช้ Good evening ไม่ใช่ Good night อันนี้ใช้ลาเวลากลางคืน ถ้าเป็นคนต่างชาติต้องจับมือ (ใช้มือขวา จับให้แน่นพอประมาณ ไม่ใช่เหยาะแหยะ แต่ไม่ถึงกับกระดูกเกือบหัก) ถ้าชายกับชาย ใครยื่นมือก่อนไม่สำคัญ คนเหนือกว่ามักยื่นก่อน ถ้าชายกับหญิงต้องรอให้หญิงยื่นก่อน (ให้เกียรติเขา เพราะเขาอาจไม่อยากจับมือเรา ถ้าเราเป็นชายแล้วเรายื่นก่อนจะเป็นการบังคับให้เขาต้องจับมือกับเรา) ขณะจับต้องสบตา ก้มหัวนิด แล้วกล่าวสวัสดี รอให้เขาเชิญให้นั่งก่อนแล้วถึงนั่ง ไม่ไกว่ห้าง เอามือจับกันจะได้ไม่สั่นให้เขาเห็น (ถ้าวางมือบนขาจะดูแข็งหรือกลัวไปหน่อย) ไม่สูบบุหรี่ นอกจากเขาชวน ถึงชวนก็ไม่น่าสูบนอกจากจะกันเองจริงๆ

เขาอาจพูดว่า "Please tell me about yourself." หรือ "Please introduce yourself." เราก็เริ่มว่า "My name is Somsak Lertjamlong. I am 24 years old. I graduated from .... University last year (หรือ two years ago). I have a bachelor's degree in accounting." ถ้าทำงานอยู่ตอนนี้อาจบอกว่า "At present I am working as a salesman for a company that sells farm equipment." ไม่ต้องบอกชื่อที่ทำงาน นอกจากเขาจะถาม อาจพูดเลยไปถึงทางบ้านถ้าดูสมควร "I live in Prakanong. I am married and have two sons, 3 and 4 years old."

กับที่เขาถามว่า How did you know to apply for this position? ตอบว่ารู้ยังไงว่ามีตำแหน่ง "I saw your ad (หรือ advertisement) in the newspaper." "My friend who works here told me about the opening."

เรื่องเงินเดือนไม่ต้องเอ่ยจนกว่าเขาจะถาม ถ้าเขาถามว่าต้องการเท่าไหร่ เราต้องเตรียมตอบไว้ แต่โดยมากเขามักจะบอกเราว่าจะให้เท่าไหร่

สัมภาษณ์เสร็จต้องขอบใจ "Thank you for talking to me." "Please let me know you need any more information." แล้วจับมือหรือไหว้แล้วแต่กรณีย์

Good Luck with your interview





ขอเพิ่มเติม เวลาสวัสดีควรจะต่อท้ายคำสวัสดี เช่น Good morning, sir. หรือ Good morning, madame (ถ้าเป็นหญิงอายุมากกว่าเรามาก) อย่าลืมว่าภาษาอังกฤษคำลงท้ายเช่น sir, madame ขื้นกับเพศของคนที่เราพูดด้วย ไม่เหมือนภาษาไทยที่คำลงท้ายขึ้นกับเพศของคนพูด อย่าเผลอไปใช้ sir กับคนสัมภาษณ์ที่เป็นหญิง ถ้าให้ดีควรต้องรู้จักชื่อคนที่จะสัมภาษณ์เราด้วย จะได้พูด "Good morning, Mr. Jones." "Good morning, Mrs. Smith" (หรือ Miss Smith ถ้ายังโสด อันนี้เราบางทีไม่มีทางรู้นอกจากจะถามคนหน้าห้องว่าคนสัมภาษณ์ชื่ออะไร ถ้าเป็นคนไทยก็ง่าย "Good morning, Mr. Somsak" หรือ "Good afternoon, Kun Sumalee."

ควรจะรู้ว่าบริษัทที่เราไปสมัครนั้นทำอะไร ต้องสืบสวนนิดหน่อย ไม่ใช่ไม่รู้เลย เพราะเขาอาจถามว่ามีความรู้เรื่องบริษัทแค่ไหน อย่างน้อยเราจะต้องบอกได้ว่าเป็นบริษัทเกาหลี สร้างชิ้นส่วนรถยนตร์ให้บริษัทเฮียนได ยิ่งหางานตำแหน่งยิ่งสูงยิ่งต้องรู้มาก ไม่ใช่ว่าสมัครตำแหน่งสมุหบัญชีแต่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร

การแต่งตัวสำคัญเหมือนกัน ต้องให้สมกับตำหน่งที่เราสมัคร จะสมัครเป็น Receptionist แต่งสวยก็ได้แต่ไม่ถึงขนาดดาราทีวี เดี๋ยวเขาจะคิดว่าสาวคนนี้คงใช้คอม.ไม่เป็น ดีแต่แต่งตัว ถ้าจะขายเครื่องสำอางค์ก็แต่งอย่างหนึ่ง ถ้าจะเป็นทาง sales ทาง networking จะต้องแต่งตัวให้คนที่เขาจะซื้อของจากเราจะมีความเชื่อมั่นว่าที่เราพูดให้เขาฟังนั้นเชื่อถือได้ ติดตั้งแล้วใช้งานได้ ถ้าเป็นหญิงทำงานในตำแหน่งที่ส่วนใหญ่มีแต่ชายยิ่งสำคัญมาก เอนจิเนียร์หญิงจะขายเครื่องกลแต่งตัวแบบคนขายเครื่องสำอางค์ไม่ได้ ต้องแต่งแบบเอาการเอางาน ทาลิปสติกนิดเดียวไม่เขียนคิ้ว ฯลฯ ใส่เสื้อผ้าเรียบๆ รองเท้าส้นไม่สูงมาก ให้คนเขารู้ว่าถ้าจำเป็นจะต้องคุกเข่าลงไปดูใต้เครื่องก็ทำได้ ตำแหน่งยิ่งสูงการแต่งตัวยิ่งสำคัญ รองเท้าหนังดีกว่ารองเท้าผ้าใบ ยกเว้นพวกที่ไม่ต้องพบลูกค้าเช่น programmer แต่ก็ต้องสะอาด เล็บตัดเรียบร้อย อย่าลืมว่า First impression สำคัญมาก ถ้าคนสัมภาษณ์พอเห็นหน้าเราก็มีความรู้สึกไม่ดีแต่แรก เราจะแก้ตอนหลังยาก

ไม่ทราบว่าไทยทำกันหรือเปล่าแต่ฝรั่งเขาแนะนำให้มีจดหมายไปขอบคุณคนที่สัมภาษณ์เราตอนกลับไปบ้านแล้ว ได้ประโยชน์ทำให้เขาจำเราได้ดีขึ้น เวลาพิจารณาเราจะเด่นกว่าคนอื่น นอกจากนั้นแล้วยังใช้เป็นโอกาสเสริมที่เราพูดไว้หรือเพิ่มเติมที่เราลืมบอกไป กับแสดงมารยาท เมืองไทยอาจไม่สำคัญ นอกจากตำแหน่งใหญ่ๆ

ที่มา
http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=16365




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น